ไผ่ ดาวดิน รายงานตัวตำรวจ ม.112 กรณีฝังหมุดคณะราษฎร สนามหลวง
เมื่อ 8 ธ.ค.63 เวลา 1215 ตามที่ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา และ นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข จะเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ม.112 ที่ สน.ชนะสงคราม ในคดี 19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร ที่ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 19 – 20 ก.ย.63 โดยกลุ่มฯ นัดรวมตัวที่ห้างสรรพสินค้านิวเวิลด์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ ในพื้นที่พบ นายสมยศฯ และมวลชน จำนวน 5 คน เดินทางเข้าพื้นที่
เวลา 1345 ที่ สน.ชนะสงคราม น.ส.ปาริชาต เลิศอัคระรัตน์ กลุ่มนักเรียนเลว กล่าวปราศรัย ถึงปัญหาของ ม.112 เพราะการวิพากษ์วิจารณ์ประมุขของรัฐนั้นเป็นสิ่งที่สมควรพูดถึงได้ การที่พระมหากษัตริย์จะฟ้องร้องคนที่จาบจ้วงควรจะกระทำด้วยพระองค์เอง หรือให้ผู้ที่สำเร็จราชการแทนเป็นผู้แจ้ง ไม่ใช่เปิดช่องว่างให้ประชาชนคนไหนก็ได้เป็นผู้แจ้ง
สน.ชนะสงคราม เวลา 1400 นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา เดินทางเข้าพื้นที่ จากนั้นได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อว่า “ตนรู้สึกไม่ดีที่โดน คดี ม.112 การใช้มาตราดังกล่าว ทำให้คนรู้สึกกลัว เพราะเป็นการจำกัดสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน ปัญหาของการบังคับใช้นั้นขัดกับหลักสากล ความผิดนั้นเทียบเท่ากับคดีที่ร้ายแรงในหลาย ๆ คดี และการดูหมิ่นนั้นก็ไม่มีบรรทัดฐาน ไม่สามารถระบุได้ว่าพฤติกรรมแบบไหนถึงเข้าข่ายการหมิ่น”
เวลา 1410 มวลชนกลุ่มคณะราษฎร จาก สภ.เมืองนนทบุรี ประมาณ 30 คน เดินทางมาสมทบ จากนั้นเวลา 1415 นายจตุภัทร์ฯ เข้าพบ พนส. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา
เวลา 1425 น.ส.วรรณวลี เอมจิตต์ กลุ่มพะยอมเก๋า กล่าวปราศรัย เรื่องการซื้อขายตำแหน่งกันของวงการตำรวจ ที่บางตำแหน่งซื้อขายกันถึงหลักล้าน ในขณะที่ตำรวจชั้นผู้น้อยยังใช้เครื่องมือคุณภาพต่ำในการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้ประชาชนไม่ใช่ศัตรูของตำรวจ เพราะมวลชนก็เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ได้รับสิทธิ์ขั้นพื้นฐาน แต่ตำรวจกลับทำกับประชาชนอย่างไม่มีเยื่อใย และขอให้ตำรวจออกมาอยู่ข้างประชาชน เพราะถ้าตำรวจและประชาชนร่วมมือกัน จะสามารถปฏิรูปโครงสร้างของตำรวจได้
เวลา 1500 ภายหลังเสร็จสินกระบวนการ นายสมยศฯ และ นายจตุภัทรฯ ปฏิเสธข้อกล่าวหาในคดี ม.112 โดย จนท.ตร. สน.ชนะสงคราม ได้นัดหมายเพื่อให้การเพิ่มเติมอีกครั้ง ในวันที่ 8 ม.ค.64