วุ่น! ปิยบุตร หาเสียง หนองคาย กลุ่มปกป้องฯ ไล่หนักแผ่นดิน

ภาคอีสาน ที่ จ.หนองคาย เมื่อ 15 ธ.ค.63 เวลา 1850 นายปิยบุตรฯ และคณะฯ เดินทางมาถึงลานน้ำพุพญานาค อ.เมืองหนองคายฯ  โดยมีประชาชนรอต้อนรับ/รับฟังปราศรัย ประมาณ 250 คน ระหว่างการปราศรัยได้มีกลุ่มผู้เห็นต่างทางเมือง (ตรงข้ามคณะก้าวหน้า) จำนวน 5 คน เข้ามาก่อกวนภายในบริเวณปราศรัย พร้อมตะโกนต่อว่า นายปิยบุตรฯ อาทิ “หนักแผ่นดิน” จนเกิดความวุ่นวาย ซึ่งนายปิยบุตรฯ ให้ประชาชนแนวร่วมชูสามนิ้ว จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวกลุ่มบุคคลดังกล่าวออกจากบริเวณเวทีปราศรัยฯ

เวลา 1857 นายปิยบุตรฯ เริ่มปราศรัย สาระสำคัญ กล่าวขอโทษพี่น้องประชาชนที่เดินทางมาล่าช้า และกล่าวถึงพรรคอนาคตใหม่ถูกกลั่นแกล้งเรื่องคดี ทำให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้ยุบพรรคอนาคตใหม่และแกนนำบางคนถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง และส่งผลให้ตนเองมีตำแหน่งผู้ช่วยหาเสียงของ นายกฤศภณ หล้าวงศา ผู้สมัครนายก อบจ.หนองคาย และ ผู้สมัคร ส.อบจ.ฯ ในนามคณะก้าวหน้า กล่าวถึงการกระจายอำนาจต้องกระจายอำนาจอย่างแท้จริง เปรียบเปรยในลักษณะผู้ว่าราชการจังหวัดมาจากแต่งตั้งไม่ใช่การเลือกตั้งจากประชาชน

ความสำคัญของตำแหน่งของนายก อบจ.หนองคาย มีอำนาจในการบริหาร งป. ปีละ 440 ล้านหรือ สมัยละ ประมาณ 1,700 ล้าน เพื่อพัฒนาจังหวัดฯ แต่อย่างไรก็ตาม งป. ดังกล่าวมาจากการเสียภาษีของพี่น้องประชาชน คณะก้าวหน้าจึงขออาสารับใช้พี่น้องประชาชน จ.หนองคาย จะต้องเปลี่ยนแปลงในทิศทางดีขึ้น ชี้แจงนโยบายของคณะก้าวหน้า อาทิ จะพัฒนาศูนย์กีฬา สวนสาธารณะ ระบบขนส่งสาธารณะเป็นสิทธิ์ขั้นพื้นฐานที่ควรมี พัฒนาอย่างเป็นระบบ นำเทคโนโลยี่มาใช้

การบริหารงาน อบจ. ต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ จะมีการถ่ายทอดสดประชุมสภา อบจ.ฯ ทุกครั้ง เป็นต้น คณะก้าวหน้าไม่สนับสนุนการซื้อสิทธิ์ ขายเสียง ต้องทำการเมืองใหม่ สู้กันด้วยนโยบาย การทำงาน และการเมืองท้องถิ่น จ.หนองคาย ต้องไม่ถูกครอบงำด้วยตระกูลใดตระกูลหนึ่ง ขอให้ประชาชนสนับสนุน นายกฤศภณฯ มีคุณสมบัติจุดยืนทางการเมืองประชาธิปไตยชัดเจน พร้อมรับใช้ประชาชน

หากคณะก้าวหน้า ชนะการเลือกตั้งฯ จะเป็นการส่งสัญญาณถึงรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าหมดเวลาการบริหารประเทศ โจมตีการยึดอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ฯ ตั้งตนเป็นใหญ่ และผลคดีของ พล.อ.ประยุทธ์ฯ อาทิ ไม่กล่าวคำถวายสัตย์ ขาดคุณสมบัติการเป็น นรม. เนื่องจากเป็น จนท.รัฐ การพักอาศัยบ้านพักของทหารและเน้นย้ำใน 20 ธ.ค.63 ขอให้ประชาชนสนับสนุนคณะก้าวหน้า ซึ่งเป็นฝ่ายตรงข้ามพล.อ.ประยุทธ์ฯ และไม่ควรเลือกผู้สมัคร/กลุ่มการเมือง ที่เคยอิงแอบ พล.อ.ประยุทธ์ฯ

สุดท้ายนี้ไว้วางใจเลือกผู้สมัครคณะก้าวหน้า เพื่อเป็นการเปลี่ยนแปลงการเมืองท้องถิ่นหนองคาย เปลี่ยนแปลงการเมืองระดับประเทศ และสนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ คณะก้าวหน้า พร้อมทั้งเป็นการให้กำลังใจตนเองและนายธนาธรฯ

เวลา 1947 ยุติการปราศรัยฯ หลังจากนั้นมีการถ่ายภาพร่วมกัน/เหตุการณ์ทั่วไปปกติ จากนั้น นายปิยบุตรฯ พร้อมคณะ เดินทางออกจากลานน้ำพุพญานาค เพื่อไปทำกิจกรรม พบปะ พูดคุยกับคณะทำงานฯ (เป็นการส่วนตัว)