เมื่อ 25 ม.ค.64 ที่หน้าตึกศรีจุลทรัพย์ (ที่ตั้งของบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์) กลุ่ม ราษฎร 63 นำโดย นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ วัตถุประสงค์ จัดกิจกรรมกระชากหน้ากากไบโอไซเอนซ์ ยอดมวลชน 20 คน
ความเคลื่อนไหว เวลา 1340 นาย พริษฐ์ ชิวารักษ์ ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดกิจกรรมในครั้งนึ้
เวลา 1350 กลุ่มได้ทำกิจกรรม โดยการชูป้าย และกล่าวโจมตีรัฐบาล
เวลา 1430 น. ยอดมวลชนประมาณ 20 คน / นายพริษฐ์ฯ กล่าวเปรียบเทียบกรณีการจัดหาวัคซีนของประเทศเพื่อนบ้านว่าสามารถแจกให้ประชาชนอย่างทั่วถึง และมีการจัดหาจากหลายบริษัท เพื่อกระจายความเสี่ยง เพราะในปัจจุบันวัคซีนโควิดเป็นสิ่งใหม่ซึ่งมีใช้เป็นครั้งแรก รัฐบาลไทยจึงไม่ควรมั่นใจกับบริษัทใดบริษัทหนึ่งเป็นพิเศษ
– วัคซีนเซโนแวคจากประเทศจีนไม่มีความน่าเชื่อถือ เนื่องจากประเทศจีนนั้น ได้ปิดบังข้อมูลในการวิจัย หลายๆประเทศยกเลิกการสั่งซื้อ แต่รัฐบาลไทยกลับยืนยันที่จะซื้อเพราะ มีเครือเจริญโภคภัณฑ์ร่วมทุนอยู่
– วัคซีนแอสตราเซเนก้า นั้นบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ยังเป็นมือใหม่ซึ่งไม่เคยผลิตวัคซีนมาก่อน จึงไม่สมควรที่จะมารับหน้าที่ในการผลิตวัคซีนโควิดนี้ สยามไบโอไซเอนซ์ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลกว่า 1,400 ล้านบาท
ต่อมา นายพริษฐ์ฯ พยายามนำป้ายระบุข้อความ “วัคซีนภาษีไพร่แจกจ่ายในนามเจ้า” ยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ของบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ รวมถึงฝากคำถามถึงรัฐบาลว่า เหตุใดจึงสามารถแจกวัคซีนให้กับประชาชนได้เพียง 20% และเปิดเผยหนังสือสัญญาระหว่างรัฐบาลกับบริษัทฯ ว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่
เวลา 1445 ที่อาคารศรีจุลทรัพย์ ที่ตั้ง บจ.สยามไบโอไซเอนซ์ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ (เพนกวิน) และ น.ส.เบนจา อะปัญ พร้อมมวลชนเดินทางกลับ เหตุการณ์ทั่วไปปกติ