ราษฎร นักเรียนเล ว ม็อบต้านเหยีย ดเพ ศในโรงเรียน

ราษฎร นักเรียนเล ว ม็อบต้านเหยีย ดเพ ศในโรงเรียน เมื่อ 18 มิ.ย.64 ที่ หน้ากระทรวงศึกษาธิการ กลุ่มนักเรียนเล ว นำโดย นาย ลภนพัฒน์ หวังไพสิฐ, น.ส.กัลยากร สุนทรพฤกษ์ วัตถุประสงค์ จัดกิจกรรมหัวข้อ “กูจะเป็นเพ ศอะไรก็เรื่องของกู” ต้านการเหยียดเพ ศในสถานศึกษา กิจกรรมผ่านสื่อออนไลน์เพจนักเรียนเล ว จำนวนยอดมวลชนประมาณ 30 คน

เวลา 16.30 น. กลุ่มฯ ได้เดินทางมา เพื่อแสดงเชิงสัญลักษณ์แสดงพลังแห่งตัวตน แสดงจุดยืนที่มีความหลากหลายทางเพ ศ ให้บุคลากรที่มีความคิดล้าหลังใน ศธ. เห็นว่านักเรียนทุกคน ก็คือมนุษย์เหมือนคนอื่น อย่าให้ใครมาทำลายตัวตนของเราลง พร้อมกับจัดม็อบออนไลน์ ถ่ายทอดสด และติดแฮกแท็ก #กูจะเป็นเพ ศอะไรก็เรื่องของกู

ซึ่งก่อนการจัดกิจกรรมเกิดความวุ่นวายขึ้น เนื่องจากผู้ชุมนุมยืนยันที่จะจัดกิจกรรมในกระทรวง แต่ทาง ศธ. ไม่อนุญาต เพราะผู้ชุมนุมไม่ได้ทำเรื่องของอนุญาตมา ซึ่งอาจจะผิดกฎหมาย และทาง ศธ. อาจจะแจ้งความได้ ที่ศธ. เปิดประตูให้ เพราะต้องการให้ผู้ชุมนุมเข้ามาพักในกระทรวงเท่านั้น ไม่ใช่ให้จัดกิจกรรมทางการเมือง

เวลา 16.45 น. พ.ต.อ.จตุพร พลภักดี ผกก.สน.ดุสิต เข้าเจรจากับทางกลุ่มฯ โดยกล่าวว่า ทาง ศธ. ไม่ยินยอมให้จัดกิจกรรม ซึ่งศธ. แนะนำให้จัดกิจกรรมนอกกระทรวง เพราะถ้าผู้ชุมนุมจัดกิจกรรมในกระทรวง โดยไม่ได้รับอนุญาต อาจจะมีความผิดฐานบุกรุกสถานที่ราชการ เพราะถ้า ศธ.ร้องทุกข์กล่าวโทษ จะถูกดำเนินคดี ทั้งนี้ทาง ตร.จะอำนวยความสะดวก โดยการปิดถนน

ซึ่งทางผู้ชุมนุมไม่ยอมออกไปนอกกระทรวงเพื่อจัดกิจกรรม และยืนยันจะจัดกิจกรรมในกระทรวง และกล่าวว่าถ้าศธ. ดำเนินคดีให้รู้กันเลยว่า ศธ.ดำเนินนคดีกับเยาวชน

เวลา 17.00 น. กลุ่มฯ มายืนกดดัน เพื่อขอพบนายสุภัทร จำปาทอง ปลัด ศธ. หน้าอาคารราชวัลลภ เพื่อกดดันให้ ศธ. อนุญาตให้ผู้ชุมนุมจัดกิจกรรมในกระทรวง

เวลา 17.05 น. ตัวแทนนักเรียนเล ว กล่าวว่า ได้ติดต่อกับ จนท.ตำรวจว่าจะประสานกับรัฐมนตรี ตรีนุชแล้ว แต่เมื่อเข้าด้านในเจ้าหน้าที่แจ้งว่าปลัดไม่อนุญาตให้ทำกิจกรรม และถ้ามีการแจ้งความจะได้รับรู้กันว่ากระทรวงศึกษาธิการไม่เคยอยู่ข้างเยาวชนหรือนักเรียนเลยแม้แต่นิดนึง และยังพร้อมจะแจ้งความตลอดเวลา

เวลา 17.20 น. จนท.กระทรวงศึกษาแจ้งต่อกลุ่มนักเรียนเล ว ให้เวลาจัดกิจกรรมถึงเพียง 18.30 น.

สำหรับรายละเอียดความเคลื่อนไหวการจัดกิจกรรมของราษฎร นักเรียนเล ว ม็อบเหยีย ดเพ ศในโรงเรียน จะเป็นอย่างไรต่อไป โปรดติดตามอ่านได้ในบทความข่าวต่อไปค่ะ