รุ้ง ราษฎรแนวร่วมธรรมศาสตร์ บุกทำเนียบ หยุดดำเนินคดี ม.112 เมื่อ 1 พ.ย.64 เวลา 1000 น. ที่ ทำเนียบรัฐบาล กรณีกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม นำโดย น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒน์กุล และ กลุ่มAmnesty ประเทศไทย
นัดหมายมวลชน นำรายชื่อ 20,000 รายชื่อ จากกิจกรรม “หยุดคดีที่ไม่เป็นธรรมต่อเพื่อนเรา” ปล่อยเพื่อนเรา เพื่อยื่นต่อนายกรัฐมนตรี เรื่อง หยุดดำเนินคดีที่ไม่เป็นธรรมต่อบุคคลที่ออกมาใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออก การชุมนุม ตามสิทธิมนุษยชนอย่างสงบ นั้น
เวลา 1012 น. กลุ่มมวลชน เดินทางเข้าพื้นที่ บริเวณแยกนางเลิ้ง พร้อมป้ายข้อความรณรงค์เชิงสัญลักษณ์ ประกอบการทำกิจกรร่มระบุ ข้อความอาทิ “หยุดดำเนินคดีที่ไม่เป็นธรรมต่อบุคคลที่ออกมาใช้สิทธิมนุษยชนอย่างสงบ” พร้อมระบุรายชื่อ จำนวน 28,426 รายชื่อ ที่รวบรวม ผ่านWW W.CHANGE.ORG/FREERATSADON เพื่อนำมายื่นต่อนายกรัฐมนตรี ประเด็นเรียกร้องให้หยุดดำเนินคดีที่ไม่เป็นธรรมต่อบุคคลที่ออกมาใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออก การชุมนุม ฯ
ทั้งนี้ จนท.ตร. ได้มี การตั้งแนวกั้นแผงเหล็ก บริเวณแยกนางเลิ้ง ไม่อนุญาตให้กลุ่มฯ ผ่านไปยังทำเนียบฯ โดยเป็นการจัดตัวแทนรับหนังสือจากทางกลุ่ม บริเวณหน้าแนวกั้นแยกนางเลิ้งแทน
เวลา 1025 น. นางปิยนุช โคตรสาร ได้ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่าน นายสมพาศ นิลพันธ์ ตำแหน่ง ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี รับเรื่องไว้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ภายหลังยื่นหนังสือ ตัวแทนกลุ่มฯ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อฯ โดย น.ส. ปิยะนุช โคตรสาร กล่าวถึงประเด็นสิทธิการประกันตัวต่อผู้ที่ถูกดำเนินคดีทางการเมือง ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ควรได้รับ โดยภาครัฐควรเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ออกมาใช้เสรีภาพในการแสดงออกอย่างเสรี
โดยไม่ควรใช้กฎหมายมาปิดกั้นการแสดงออก และกล่าวถึงประเด็น การเสีeชีวิตของ ด.ช.วาฤทธิ์ สมน้อย ที่ เสีeชีวิตจากการร่วมกิจกรรมทางการเมือง โดยเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่ ตร. เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับคดี อย่างโปร่งใส
น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล กล่าว การต่oสู้ในปัจจุบันคือการต่oสู้เพื่ออุดมการณ์ แต่มีกลุ่มผู้มีอำนาจบางกลุ่ม ไม่อยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น จึงคอยขัดขวางด้วยการใช้กฎหมาย ในการกลั่นแกล้ง กับกลุ่มคนที่ออกมาใช้สิทธิ์เรียกร้องตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งฝากไปถึงผู้มีอำนาจว่าการกระทำดังกล่าว ไม่อาจจะขัดขวางเจตจำนงของการต่ อสู้ ของประชาชนได้
ใน 3 พ.ย.64 เวลา 1000 ตนจะเดินทางไปยังศาลอาญาฯ กรณี การไต่สวนถอนประกัน ซึ่งไม่อาจคลาดเดาได้ว่า จะถูกกลับเข้าไปในเรือนจำหรีอไม่ เชิญชวนมวลชน และ สื่อมวลชน ร่วมเดินทางไปสังเกตการณ์
หลังจากนั้นร่วมถ่ายภาพร่วมกัน
เวลา 1050 น. กลุ่มยุติกิจกรรม ทยอยเดินทางกลับ โดยบางส่วนจะเดินทางไปสมทบ กลุ่ม We Volunteer กรณีเดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อกรรมาธิการกฎหมาย และการยุติธรรม เพื่อขอความยุติธรรมให้กับผู้ต้องหาคนดังกล่าว ที่ถูกกระทำความรุนแรงจากเจ้าหน้าที่รัฐ
ยอดมวลชนประมาณ 20 คน
หนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เรื่อง หยุดดำเนินคดีที่ไม่เป็นธรรมต่อบุคคลที่ออกมาใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออก การชุมนุม ตามสิทธิมนุษยชนอย่างสงบ