อุดรพอกันที ราษฎรไล่ประยุทธ ปะทะ คฝ. โดนรวบคุก เมื่อ 1 ธ.ค.64 เวลา 0840-1200 ความเคลื่อนไหวกลุ่มเห็นต่างทางการเมือง ได้จัดกิจกรรมแสดงสัญลักษณ์ทางการเมืองต่อต้าน นายกรัฐมนตรี ที่เดินทางมาปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ จ.อุดรธานี มีดังนี้
เวลา 0840 ปรากฏพบกลุ่ม เห็นต่างทางการเมือง ประกอบด้วย กลุ่มอุดรพอกันที , กลุ่มดึงดิน, กลุ่มกอผือรื้อเผด็จการ, กลุ่มคนเสื้อแดง, และกลุ่มคณะราษฎร ประมาณ 60 คน ได้ทยอยเดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณ หน้า ศูนย์ประชุมมณฑาทิพย์ฮอลล์ ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี จว.อ.ด.
อาทิ นายวันชนะ ทองโคตร แกนนำกลุ่มอุดรพอกันที, นายกุญชวริทธิ์กุล ศรีบุญรอด แกนนำกลุ่มอุดรพอกันที , น.ส.อรณภา สู้ณรงค์ แกนนำกลุ่มอุดรพอกันที , น.ส.พิมพ์มาดา วงษ์เสียงดัง แกนนำกลุ่มอุดรพอกันที, นายนวพล กัลยา แกนนำกลุ่มกอผือรื้อเผด็จการ, นายเอเชีย รุ่งเกียรติธนโชติ แกนนำกลุ่มดึงดิน , นายกิตติโชค ดีไร่ แกนนำกลุ่มดึงดิน
นายสุเทพ แสงเรืองเอก ผู้เห็นต่างทางการเมืองต่อต้านรัฐบาล, น.ส.เสาวลักษณ์ สิทธินนท์ ผู้เห็นต่างทางการเมืองต่อต้านรัฐบาล, นางพรนภา มีสมรูป แนวร่วมคนเสื้อแดงอุดรธานี , นางจริยา รัตนเมือง แนวร่วมคนเสื้อแดงอุดรธานี , นางเย็นจิตร พชรภาณุกุล แนวร่วมคนเสื้อแดงอุดรธานี , จ.ส.อ. ประเสริฐ วรรณโชติ แนวร่วมคนเสื้อแดงอุดรธานี
เวลา 0900 – 1050 กลุ่มเห็นต่าง ทางการเมือง พยายามเข้าไปก่อกวนในพื้นที่ ศูนย์ประชุมมณฑาทิพย์ฯ แต่ถูกทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าควบคุม และผลักดันออกจากพื้นที่มายังจุดควบคุม ฝั่งตรงข้ามบริเวณศูนย์การค้ายูดีทาวน์ ทั้งนี้ ระหว่าง นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะฯ ได้เดินทางมาถึงศุนย์ประชุมฯ กลุ่มฯ ได้แสดงสัญลักษณ์ทางการเมือง อาทิ การชู 3 นิ้ว ถือป้าย และการด่าทอ นายกรัฐมนตรี โดยใช้เครื่องขยายเสียงมือถือ (โทรโข่ง) เป็นอุปกรณ์ เป็นต้น
เวลา 1100-1200 กลุ่มเห็นต่างทางการเมืองฯ ประกอบด้วย กลุ่มอุดรพอกันที , กลุ่มดึงดิน , กลุ่มกอผือรื้อเผด็จการ ประมาณ 20 คน ได้มารวมตัวกันที่บริเวณ ถนนศรีสุข หน้า สภ.เมืองอุดรธานี ต.หมากแข้ง อ.เมืองฯ และได้ทำการ พ่นสีสเปรย์
และปาสีใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และป้ายด้านหน้า สภ.เมืองอุดรธานี เนื่องจากกลุ่มไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการควบคุมกลุ่มแกนนำและแนวร่วม ที่บริเวณหน้าศูนย์ประชุมมณฑาทิพย์ ฯ ขณะที่ นายกรัฐมนตรีและคณะ รับฟังการบรรยายสรุปฯ
สำหรับความเคลื่อนไหวของกลุ่มอุดรพอกันที ราษฎรไล่ประยุทธ ปะทะ คฝ. โดนรวบคุก จะมีความคืบหน้าอย่างไร โปรดติดตามอ่านได้ในบทความข่าวต่อไปค่ะ