เมื่อ 13 ก.พ.64 ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กลุ่มเพจราษฎร ได้โพสต์ประชาสัมพันธ์กิจกรรม และเชิญชวนมวลชนมาพบกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มาช่วยกันรื้อเอาสิ่งแปลกปลอมออกไป เอาประชาธิปไตยคืนมา มวลชนประมาณ 500 คน
เวลา 1630 น. นายธนาธร วิทยเบญจางค์ (ฮ่องเต้) นศ. ชั้นปีที่ 3 คณะมนุษย์ศาสตร์ มช. ขึ้นปราศรัย กล่าวถึงกฎหมาย ม.112 ที่ปกป้องสถาบันฯ และปิดปากประชาชน เรียกร้องให้ยกเลิก ม.112 กล่าวประนามรัฐบาลปล้นอำนาจประชาธิปไตย กล่าวถึงนานาชาติที่มองเห็นถึง ม.112 และถ้าสถาบันฯยังยืนยันที่จะไม่ยกเลิก ม.112 ทั่วประเทศจะเป็นผู้ช่วยเหลือประชาชนในการกดดันสถาบันฯ
เวลา 1650 น. นายเกียรติชัย ตั้งภรณ์พรรณ ขึ้นปราศรัย กล่าวถึง ม.112 ที่ไม่มีความชอบธรรม จำกัดสิทธิเสรีภาพประชาชน ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ สถาบันที่ดีควรอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ การใช้ ม.112 ปกป้องสถาบันฯ ทำให้กฎหมายเสื่อม ขอให้ประชาชนออกมาต่อสู้กับเผด็จการ
เวลา 1730 น. กลุ่มราษฏรฯ ยังคงสลับกันปราศรัย อาทิ
น.ส.วรรณวลี ธรรมสัตยา (ตี้ พะเยา) กล่าวถึงการคุมขัง 4 แกนนำแนวร่วมกลุ่มราษฎรจากการออกมาเรียกร้องเพราะเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชน ประเด็นภาษีที่ต้องจ่ายให้กับรัฐฯโดยทางตรง และ ทางอ้อม
แต่กลับไม่คุ้มกับเงินที่จ่ายให้ไป และ กล่าวอ้างถึงมีการทุจริต ทั้งนี้ประเด็นปราศรัยส่วนใหญ่ ของ น.ส.วรรณวลีฯ เป็นการพาดพิงสถาบันฯต่อเนื่อง อาทิ เรื่องงบประมาณฯ เรียกร้องมวลชนออกมาร่วมการชุมนุม
นาย ภาณุพงศ์ จาดนอก กล่าวโจมตีมาตรา 112 ที่มาใช้กับประชาชน ทำไห้การสูญหายของประชาชนในห้วงที่ผ่านมา โจมตีรัฐฯนำต้นไม้มาวางไว้ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเป็นการเหยียบย่ำและทำร้ายประชาธิปไตย
สิ่งใดที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พวกตนจะนำออกให้หมดโดยจะมีการรื้อถอนต้นไม้ และ โรงเหล็กออกจากอนุสาววรีย์ประชาธิปไตย
ทั้งนี้นายภาณุพงศ์ได้ประกาศให้มวลชนเข้าไปภายในอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเพื่อร่วมรื้อถอนต้นไม้ที่นำมาตกแต่งออก
ที่มา สุดาตา นานนอน